ไม่ว่าเราจะมีความเชื่อในแขนงไหน หรือศาสนาใดในโลก ทุกคนก็พูดตรงกันหมด นั่นคือ ล้วนแล้วแต่สอนให้เป็น "คนดี"
การทำความดีจึงเป็นคำบอกที่มักถูกสอนกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า หากแต่เมื่อสืบสาวลงไป เพื่อหาเนื้อหากระบวนการ ในการเป็นคนดี หรือทำความดีนั้นๆ หารายละเอียดวิธีการ หรือ กระบวนการที่เป็นแก่นสารในการดำเนินรอยตาม กลับไม่มี
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมคนทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อ อยู่ในหลักคำสอน และปรารถนาที่จะเป็นคนดี จึงเป็นไม่ได้ดั่งใจคิด
เพราะเมื่อสาวลึกลงไป ไม่มีใครบอกถึงกระบวนการแห่งการเป็นคนดีได้เลย นั่นเอง จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่สามารถการันตีได้เลยว่า หากเรามีความเชื่อ และทำตาม จะเป็นคนดีได้ ทุกคน
ความเชื่อ ไม่ว่า จะเป็นลัทธิ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ศาสนาใดๆ รวมทั้งพุทธศาสนา จึงถูกฟ้องด้วย การฉ้อฉลของผู้ปฏิบัติ ที่หลอกลวงนั่นเอง
ทั้งนี้ ก็ด้วยเหตุที่ ความเชื่อนั้นๆ เกิดจากความคิด ความอ่านของมนุษย์ สร้างเป็นกรอบ ประเพณี ปฏิบัติสืบกันมา เป็นเพียงกติกาที่ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข แต่ขาดสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็น นั่นคือ "อำนาจ"
คำถามคือ ทำไม จึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะ โลกนี้ มีอำนาจกรรม ปกครองอยู่ ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรม จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีความคิดกรรมใดๆ ที่จะสร้างการปฏิบัติมาเพื่อเอาชนะอำนาจกรรมนั่นเอง
นี่คือประเด็นที่หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ทำไมเราจึงต้องมีพระพุทธเจ้า ต้องอาศัยอำนาจธรรม ที่ซึ่งเป็นอำนาจนอกโลก เพื่อให้ความคิดที่จะมาใช้ในการดำเนินชีวิต ฉีกพรหมลิขิต หรือ กรรมลิขิตได้นั่นเอง
บรรพบุรุษ จึงสอนให้เราท่านทำตนรอพระพุทธเจ้า
ดังนั้น เมื่อเราท่านมาเจอธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่แท้จริงที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักสอนว่า อย่าไปกังวลกับโรค ที่เป็นปลายเหตุ นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อย ของชีวิต
แต่สิ่งที่ควรตระหนัก นั่นคือ การพิจารณาคำสอนของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา แล้วนำมาเป็นความคิดในการประพฤติตน
สิ่งใดที่ทำแล้วผลถูกเกิด นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ถูก เราท่านก็จำไว้ทั้งข้อผิด ข้อถูก ทำไปจนกระทั่งช่วยตนประสพผล ความรู้ของเราท่าน ก็จะกลายเป็นตำราช่วยคน ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ไม่ใช่ลองผิดลองถูก เดาสุ่ม
แม้นการมายังมูลนิธิไทยกรุณาในวันนี้ จะเป็นแผ่นดินทาน ที่ใช้สร้างทานบารมีเป็นหลักก็ตาม แต่หากผู้ใดทำได้ คนผู้นั้น ก็พัฒนาตน จากผู้รับ ผู้ที่คอยเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มาจนกลายเป็นผู้ให้ เป็นพระเวสสันดร เป็นอย่างน้อย
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ที่จะสร้างสุขในวันข้างหน้า นั่นคือ นิสัยที่สร้างสุขให้ผู้อื่นเป็นนิจ พร้อมกันนั้น ก็ได้ตำรา หรือ ธรรมหมวดสมุนไพรติดตัวไป อันตำรานี้ หากผุ้ใดมีจิตเมตตาอันมหาศาล ก็สามารถเรียบเรียง แล้วสร้างเป็นถ้อยคำ กระบวนการ แล้วทำตนเป็นพระมาลัยโปรดสัตว์ ไปสอนผู้อื่นต่อได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เพราะตนของตน ทำได้ มาแล้ว
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า สมบัติของศาสน์มีค่ามหาศาล ดูจากพุทธประวัติก็จักเห็นว่า มีค่ามากกว่าบัลลังก์เสียอีก ใครได้มาเรียน แล้วทำได้ ก็นำสิ่งนี้ไปสอนลูก สอนหลาน คนที่รัก เพื่อให้คนเหล่านั้น มีสุขเฉกเช่นตน ที่สำคัญสมบัติอันนี้ ติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติ
กระบวนการต่างๆ ที่หลวงพ่อนิพนธ์กำหนด ล้วนแล้วเป็นบัญญััติของพระพุทธเจ้า ที่ใช้ในการพัฒนาวิญญาณของสาวก ให้กลายเป็นคนดี อันมีบทพิสูจน์มาแล้ว น่าเสียดาย ที่หลายคนกลับมุ่งแต่สมุนไพร ที่เป็นสมบัติต่ำค่าที่สุดของศาสนา
เราจึงขอเน้นย้ำในคำหลวงพ่อนิพนธ์อีกครั้ง หายโรคเป็นเพียงของแถมที่ศาสนาพึงให้แก่ผู้ปฏิบัติทุกรูปนาม อยู่แล้ว หากผู้ปฏิบัตินั้น พิจารณาคำสอน แล้วทำตาม ยกวิญญาณของตนให้อยู่สูงได้ เข้ามาตรฐาน เป็นนิสัย คือ ให้สุขแก่ผู้อื่น สุขนั้นกลับมาหาตน
หลักของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า มิใช่มีแต่เพียงคำบอก คำกล่าว ให้เป็นคนดี แต่มีขั้น มีตอน มีกระบวนการสอน ให้ตนของตนพัฒนาเป็นคนดี ขึ้นมาได้ ที่สำคัญ ทุกคนทำได้
ผู้ทำได้ตามบัญญัตินี้ การันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คนผู้นั้นเป็นคนดีแน่นอน เพราะคนผู้นั้น จะยินอยู่บนพื้นฐาน ของการกลัวกรรม เป็นนิสัย และจะพึงมีความคิดสร้างสุขให้ผู้อื่น หรือ สร้างแต่ตัวกระทำที่ดี ด้วยนิสัยของพระภูมีที่มี เป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะอยากให้ตนของตนมีแต่ความสุขรออยู่ในวันข้างหน้านั่นเอง
บทสรุป ทำไมเราท่านจึงไม่เรียนเพื่อช่วยตน และคนที่รัก แต่กลับมาเอาแค่กระพี้ คือสมุนไพรเพื่อหายโรค ช่างน่าเสียดายยิ่ง ในเมื่อ เราท่านทำแล้ว ยังช่วยตนได้ ทำในสิ่งที่คนทั้งโลกช่วยเราท่านไม่ได้ แล้วกลับทิ้งวิชาสุดยอดนี้ ไม่คิดทบทวน ตอกย้ำตน เพื่อให้เป็นที่พึ่งในภายภาคหน้า ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น
มันถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่เราท่านควรจะบอกลูกหลาน ว่า เลิกกินยาเคมี เถอะ มาทานสมุนไพร เลิกดูละครสักนิด มาสวดมนต์กันสักหน่อย เลิกโกรธ เกลียด และใช้นิสัยตนกันลงสักนิด เพื่อให้สังคมครอบครัวเป็นสุข ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แม่ชีเมี้ยนนำมา
หรือจะเอาแค่เพียงหายโรค เพื่อที่จะมีแรงกลับไปด่าผัว ด่าเมีย ด่าลูก หรือเพื่อทำลายผู้อื่น เอาเปรียบเขาอีกกระนั้นหรือ