คนไข้ชาวสก็อตแลนด์ วิศวกรหนุ่ม ลูกสอง ที่ต้องล้มละลาย เนื่องจากอาการของโรคร้ายแรงหลายชนิด จนกระทั่งล่าสุดคือ มะเร็งตับ ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่อมตะวาจาของหมอมาถึง "คุณอยู่ได้อีกประมาณ สามเดือน หมอรักษาสุดความสามารถแล้ว และไม่สามารถที่จะผ่าตัดตับของคุณได้อีก "
บทสรุปของหมอ มาพร้อมกับบทสรุปของชีวิต เพราะต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี รวมทั้งบ้านและซุปเปอร์มาเก็ต คงเหลือแต่หนี้ ด้วยความบังเอิญหรือบุญบันดาล เขามีเพื่อนคนไทยที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของมูลนิธิไทยกรุณา จึงเขียนเมล์ไปบอกและให้เป็นตัวเลือก ด้วยความเอื้อเฟื้อจากมิตรสหาย ได้ลงขันเงินจำนวนสามแสนบาท มาเพื่อใช้เป็นค่ารักษาและบินมาประเทศไทย ในระยะสามเดือนที่เหลือ พร้อมกับถุงยาของฝากชิ้นสุดท้ายของหมอที่ติดมาด้วย แลกกับเงินห้าหมื่นกว่าบาท หนึ่งในนั้นคือ มอร์ฟีนน้ำ ที่ใช้ฉีดเพื่อระงับอาการปวด เมื่อมาถึง ได้เจอหลวงพ่อนิพนธ์ พร้อมกับบทพิสูจน์ใจบทแรก คือการทิ้งยาถุงใหญ่ และห้ามฉีดมอร์ฟีน
คำถามที่เกิดขึ้นคือ คำขู่ของหมอที่อยู่ในจินตนาการ ถ้าไม่ทานหรือฉีดยาที่ให้ จะทรมานจนตาย แต่ด้วยเหตุและผลที่ว่า เมื่อกินก็ต้องตายในสามเดือนที่หมอบอก ก็ลองไม่ทานดู
หลังจากเริ่มสมุนไพร ก็ตามติดมาด้วยอาการลงแดงจากการขาดสารเคมี ในช่วงแรกๆ ด้วยมานะอดทน ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว จากคนป่วยที่ต้องให้ภรรยาและลูกชาย หิ้วประคองปีก เริ่มเดินได้ด้วยตัวเอง และอาการขาดสารเคมี เริ่มหายจางลงไป การคงเส้นคงวาในการรักษาตัว คือกินสมุนไพร และที่ทำได้ยาก คือ บทสวดมนต์ ที่เป็นภาษาบาลี โรเบิร์ตได้ให้ล่ามช่วยแปล เพื่อจะได้สวดทุกวัน แทนบทสวดของคริสต์ที่เขามี ด้วยความแน่วแน่ ปาฏิหารย์จึงมาให้ได้สัมผัส หลังจากสองสัปดาห์ผ่านไป เขาเริ่มกลับไปทำในสิ่งที่เขารัก คือการว่ายน้ำ และเริ่มทำตัวเหมือนคนปกติ การยืนระยะของเขาในสามเดือน ส่งผลให้เขาสามารถว่ายน้ำได้ถึง 25 รอบสระใหญ่ได้ และขออนุญาตกลับประเทศ เมื่อกลับถึงสก็อต ได้เข้ารับการตรวจร่างกาย เผื่อที่จะกลับเข้าทำงาน ผลการตรวจปรากฎว่า ทุกอย่างเป็นปกติดี จึงแจ้งกลับมาว่า จะขออยู่ทำงานใช้หนี้ก่อนประมาณหนึ่งปี และหลังจากนั้น ทุกปีจะมีวันหยุด 1 เดือนเขาจะบินกลับมาสถานที่นี้อีก
สิ่งที่โรเบิร์ต บอกกับเพื่อนในสัปดาห์แรกของการรักษา คือ ไม่คิดว่าจะมีสถานที่แบบนี้ในโลก กินฟรี อยู่ฟรี รักษาฟรี และยังได้ผล ปฏิกิริยาตอบรับจากเขาและเพื่อนคือ เพื่อนที่เคยลงขันในการรักษาของเขา จะยังคงลงขันต่อไปทุกเดือน สมทบทุนเป็นกองทุน เพื่อจัดส่งเข้าร่วมกับกิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา ในอนาคต
พิจารณาจากตัวอย่างที่หลวงพ่อนิพนธ์ เล่าให้ฟัง จะเห็นได้ว่า ถ้าคิดตรรกะง่ายๆ โรเบิร์ตใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็คือ 90 วัน ถ้าคนไข้ทั่วไปต้องใช้เวลาเท่ากันในการแก้ปัญหา แต่มาสัปดาห์ละครั้ง ก็คือ 90 สัปดาห์ ประมาณคร่าวๆ ก็เกือบสองปี ซึ่งความจริงแล้วคงจะยืดเยื้อกว่าเป็นแน่
จึงขอบอกกล่าวว่า ก็แล้วท่านๆ ที่มาเพียง 5 หรือ 6 ครั้ง แล้วก็บอกจะเอาผล หรือตำหนิว่ากล่าว ว่าทำไมไม่หาย สิ่งนั้นจึงเป็น ความฝันที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ การยืนระยะจึงเป็นเรื่องจำเป็น
ท้ายที่สุด ก่อนจาก โรเบิร์ตได้มอบซองให้หลวงพ่อนิพนธ์ จนท่านกล่าวว่า โรเบิร์ต อยู่กับเรามาตั้งนาน รู้อยู่แล้วว่าเราไม่รับเงิน เขาแจ้งว่า ไม่ใช่ เขารู้ว่าท่านไม่รับ แต่สิ่งที่เขาใส่ในซอง คือ ไม้กางเขน 4 อัน ของทุกคนในครอบครัว เขาบอกว่า เขาเชื่อในสิ่งนี้มาตลอดชีวิต แต่สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย เขาขอแลกกับเหรียญรูปแม่ชีเมี้ยน ให้ครอบครัวเขาได้หรือไม่ เพื่อเป็นที่ระลึกบูชา แทนพระเยซู สิ่งนี้นับได้ว่าเป็นเคล็ดที่ทำให้เขาหายได้เร็ว คือ ศรัทธา และความมุ่งมั่นที่จะกลับไปมีชีวิตและเป็นคนดีของสังคม ได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นตอบแทนในวันข้างหน้า ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แม่ชีเมี้ยนนำมาถ่ายทอดให้ ขอกราบขอบคุณแม่ชีเมี้ยน เราจะได้คนดีเพิ่มในโลกอีกครอบครัวหนึ่งแล้ว
และโรเบิร์ตก็หาใช่ชาวต่างชาติรายแรกที่มารักษาไม่ มีมากมาย เช่น หลิว เม่ย หลิง, วู ก็อก เช็ง, ฟรังโก้ และอื่นๆ อีกมากมาย เขาเหล่านั้นมาสัมผัส และประสพผลไปแล้ว คนเหล่านี้เป็นคนไกล ยังมีโอกาสได้สัมผัส แต่คนไทยที่อยู่ในแผ่นดินเดียวกันมากมาย ไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อ เป็นเรื่องเศร้ายิ่งกว่านิยายน้ำเน่าเสียอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น