หลายต่อหลายคนที่ผ่านเข้ามาในมูลนิธิไทยกรุณา หรือที่ใดๆ ก็ตาม หลังจากที่ได้รับคำตอบอมตะ "หมอช่วยสุดความสามารถแล้ว" เราคิดว่า ไม่เคยมีใครตั้งคำถามเลยว่า อันที่จริง คนไข้ ที่ต้องมีอาการ หรือ ต้องเสียชีวิตไป เนื่องจากเพชรฆาตตัวใด เป็นเพราะโรคของเขาเอง หรือจากสารเคมีที่หมอใช้ ไม่เคยมีใครถาม และไม่เคยมีใครตอบ ชีวิตแล้ว ชีวิตเล่า ที่ผ่านไป เริ่มจากอาการธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เริ่มจากยาแก้ไข้ แก้ปวด เพียงเม็ดเดียว จนท้ายที่สุด มีใครเคยถามหรือหาคำตอบหรือไม่ คนๆ หนึ่ง ทานยาไปเท่าไร และยาที่ว่าช่วยได้นั้น ทำไมจึงยุติปัญหาไม่ได้ แถมยังต้องทานตัวอื่น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบจนตาย คงเหลือคำถามที่ไม่เคยถามเลยว่า "ก็ที่ว่าหมอเก่ง ยาดี ทำไมเราจึงต้องทานยาตลอด นับจากวันนั้น และมีโรคเพิ่มขึ้น ตราบจนตาย ก็ตายไปพร้อมกับยาที่ทานนั่นเอง แท้จริงแล้ว เราตายเพราะโรค หรือ ร่างกายทนยาเคมีไม่ไหวกันแน่"
เราจึงเห็นด้วยกับหลวงพ่อนิพนธ์ ที่เรียกยาเคมีว่า "เพชรฆาตเงียบ" ที่ไม่เคยมีใครถามถึง หรือพิสูจน์ผลของมันเลย
ตรรกะง่ายๆ ที่ชวนคิด "ถ้ายาเคมีช่วยเราได้ ทำไมเราจึงไม่หาย หรือ สามารถหยุดมันได้เลย" ลองตรองดู แล้วจะรู้ว่าสิ่งนี้น่ากลัวยิ่ง เพราะมันไม่ได้คร่าเพียงชีวิตของคนไข้ แต่ยังผลาญสมบัติของคนไข้ และของชาติไปอย่างมากมายมหาศาลในแต่ละปี เฉพาะปีที่ผ่านมา ก็กว่าสามแสนล้านแล้ว และพร้อมกับตัวเลขของผู้ป่วยที่เสียชีวิตทุกโรคเพิ่มขึ้นทุกปี เช่นกัน
ก็ช่วยได้ ทำไม ทำไม "คนตายจึงเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลคนยิ่งแน่น"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น