วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เหมือนแกล้ง

หลักของพระภูมี กำหนดให้มีวันทำกิจกรรม จนเป็นที่พุทธศาสนิกชน เรียกว่า วันพระ

ก็แล้วทำไมต้องมารวมตัวกันทำกิจกรรมด้วยเล่า

หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า เอกลักษณ์ของศาสนา หรือ แหล่งบุญ นั่นคือ ที่รวมของคนทุกข์

การให้สมุนไพร เพื่อรักษาโรค จึงเป็นที่สอง เพราะนั่นแก้ปลายเหตุ หากแต่การมาทำกิจกรรม ช่วยคนทุกข์ เพื่อเอาบุญ ล้างกรรม จึงจักเป็นปฐมเหตุแห่งการมา

คนทุกข์ที่มา ดูเหมือนแกล้ง ต้องมาแต่เช้า เดินไปเดินมา ต้องทนนั่ง ทนฟัง ทนร้อน .. สารพัด ยิ่งคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ด้วยแล้ว ยิ่งดูน่าเวทนา เหมือนเอามาทรมาน ยังไงยังงั้น

การมาก็เพื่อช่วยผู้อื่น แล้วสุขนั้นจึงจะย้อนคืนกลับมาหาตน มิฉะนั้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมา หากเอาแต่ตนแล้ว พ้นทุกข์ได้

นี่จึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมจึงไม่มียารักษาโรค อีกประการ เพราะจะแสวงหาสุขให้ตนสักฉันใด ไม่ได้เลย หากสุขนั้นหมายถึงสุขของวิญญาณ เมื่อวิญญาณถูกบีบเค้นด้วยกรรม ที่มีอำนาจเหนือมนุษย์

การเรียนรู้วินัยธรรมของพระพุทธเจ้า ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าชนะกรรมได้ แล้วมาปฏิบัติ เพื่อเป็นบุญ .... นั่นคือ การสร้างสุขให้ผู้อื่น แล้วสุขนั้นจึงย้อนมายังตน ... แลที่ใดเล่าที่มีคนทุกข์มากมายรอให้เราท่านมาให้สุข ... จึงเป็นเหตุให้เราท่านต้องมาที่นี่

การมายังแผ่นดินนี้ จึงไม่ใช่การแกล้ง ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล หมายความว่า มีผลแห่งการกระทำทั้งสิ้น

หลักการแพทย์ คนป่วยต้องนอนพักผ่อน หลักของพระภูมี ตรงกันข้าม ยิ่งป่วย ยิ่งต้องพยายามให้ร่างกายทำงานเหมือนปกติ หรืออาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำไป

หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า การทำงานหรือเคลื่อนไหว จะทำให้อวัยวะตื่นตัว ที่สำคัญคือ อวัยวะต้องการพลังงาน มาชดเชย ดังนั้น ทำให้ต้องการอาหารมากกว่าการนอน

ผลแห่งการต้องการอาหารนี้เอง เมื่อทานสมุนไพรควบคู่ไปกับอาหาร สมุนไพรก็จะถูกนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าเกาะอาหารไปยังอวัยวะนั่นเอง

ตัวอย่างหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นความมหัศจรรย์ ในวิธีของพระภูมี ที่หลวงพ่อนิพนธ์นำมาใช้ นั่นคือ ท่านทวี ผู้ซึ่งป่วยเป็นโรคโปลิโอ ขาลีบข้างหนึ่ง ท่านได้มาบวชในยุคที่หลวงพ่อนิพนธ์ยังเปิดสำนักรับพระที่ลพบุรี

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวกับท่านทวีว่า อยากหาย ก็ให้เดินธุดงค์ ท่านทวีก็รับและบวช จนได้เดินธุดงค์ในปีนั้น

เหมือนแกล้ง ธุดงค์ปีนั้น หลวงพ่อนิพนธ์ กำหนดเดินระยะทางกว่า ห้าร้อยกิโลเมตร แถมยังต้องเดินขึ้นเขาอีกต่างหาก

ผลแห่งการเดินในครั้งนั้น กลับจากธุดงค์ ขาของท่านทวีที่เป็นโปลิโอลีบ ก็กลับมามีกล้ามเนื้อ มีน่องปูดแทบจะเป็นปกติเหมือนอีกข้าง แล้วก็ลาสึกไปเป็นกุ๊กใหญ่ในโรงแรมทางอีสาน มาจนทุกวันนี้

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ สอนว่า หลักของพระภูมี คือการย้อนเกล็ดของกรรม กรรมทำให้พลังของเราท่านอ่อนลง วิธีแก้ก็คือ ใช้พลังที่เหลืออยู่ มาให้สุขแก่ผู้อื่น แล้วเราท่านจะได้พลังกลับมา

แบบว่่าคิดไม่ออก ทำอะไรไม่เป็น คุณปรียานุช จากเดินไม่ได้ แต่งตัวเองไม่ได้ ก็อาศํยเคล็ดนี้ เริ่มจากพอมีแรง ก็เอาแรงไปขัดถู ล้างห้องน้ำ มาทำก่อนคนไข้มาหนึ่งวันทุกสัปดาห์ จนกลับมาเดินได้ ช่วยตนได้

น่าเสียดาย ที่หลายคน อ้างว่าพลังของตนน้อย ไม่มีแรง ทำไม่ไหว ... แม้นจะแบกสังขารของตนมา ถึงสถานที่แหล่งบุญ ก็หาได้ทำสิ่งใดเพื่อช่วยตนไม่ ... เรียกว่าเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ รอคอยแต่สมุนไพร

เราจึงอยากกระตุ้นให้ทุกคน ... พยายามมา แล้วใช้พลังที่เหลือ ทำตามคำสอน อย่าปล่อยเวลาสูญเปล่า อย่ารอแต่สมุนไพร... เพราะนี่คือ หลักตนพึ่งตน ... อยากหายแค่ไหน ก็ไม่ได้ ถ้าไม่ทำ อยากช่วยแค่ไหน ก็ไม่เป็นผล เพราะใครทำ ใครได้

เมื่อทำแล้ว มีบุญแล้ว จึงใช้บทแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร เหมือนที่กล่าวตอนสวดมนต์ แก้ปฐมเหตุ คือ กรรม แล้วสั่งให้สมุนไพร แก้ไขโรคาพยาธิ ... การหายโรคก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว

ที่นี่จึงเป็นที่เดียว ที่รวมคนป่วย หากแต่มองไปแล้ว จะไม่เห็นคนนอนรอความตาย ... ทุกคนจะทำงานเหมือนคนปกติ หากแต่ไม่ใช่เพื่อหาเงิน หรือเพื่อหาสุขแก่ตน แต่ทำเพื่อให้สุขผู้อื่น แล้วจะได้บุญมาให้สุขตน คือหายโรค

ดูเหมือนทรมานคนป่วย ... แต่นี่แหละการย้อนเกล็ดของพระภูมี

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44