แม้ว่า การรักษาผู้ป่วยเอดส์ของหลวงพ่อนิพนธ์ ได้เริ่มทดลองมานาน ผ่านการพิสูจน์ตัวยาสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน โดยผู้ป่วยหลายต่อหลายรุ่น ปัจจุบัน ก็มีผู้ป่วยบางคน ที่มาขออนุญาตไปแต่งงาน และมีบุตร หลังจากหายแล้ว สิ่งที่ปรากฎยืนยันอย่างเด่นชัดคือ ทั้งพ่อ แม่ ลูก ล้วนแล้วแต่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีวี่แววการกลับมา หรือ คงอยู่ของเชื้ออีกต่อไป
กระนั้นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ หลวงพ่อนิพนธ์ เคยบอกกล่าว ว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการบันทึก หรือ ทำสิ่งใด อันจะเป็นการคุยโว ในการรักษา คนเหล่านี้ที่เราเห็น และยังอยู่จนปัจจุบัน ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงจนน่าตกใจ เพราะหลังผ่านวิกฤตการณ์แล้ว เราแทบจะไม่เคยเห็น คนเหล่านี้มีอาการใดๆ เลย เรียกได้ว่าดีกว่าคนปกติเสียอีก ทั้งนี้คงเนื่องจาก ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่ง มีภูมิต้านทานสูง กระมัง
จนถึงปัจจุบัน คนไข้เอดส์ 3 คน ในรุ่นปัจจุบัน คนหนึ่ง เป็นสาวชาวพม่า ที่ถูกคนใจบาปโทรม และแพร่เชื้อมาให้ อยู่มาปีกว่า จากการหอบสังขารมา เดินแทบไม่ไหว มาวันนี้ แข็งแรง ทำงานได้ทั้งวัน คนที่ 2 เป็นสาวชาวลาว โดยมีคนไข้มะเร็งสมอง ที่หมอบอกต้องผ่าตัด แต่ด้วยความจน จึงหันมาใช้แนวทางนี้ และประสบผล จึงได้นำคนนี้มา ผ่านไปไม่กีเดือน สาวลาวคนนี้ ก็สามารถ ช่วยดูแลสวนสมุนไพร รดน้ำต้นสมุนไพร ให้แก่มูลนิธิได้เป็นอย่างดี และคนล่าสุด หนุ่มวิศวกร ที่เพิ่งจบหมาดๆ อยู่มาได้เกือบเดือนแล้ว อาการลายตุ๊กแก ได้หายไปเกือบหมด ไม่มีอาการหอบ เชื้อราที่ขึ้นสมอง และมองเห็นได้ยามอ้าปาก ก็ถูกกำจัดไป ทำให้แข็งแรง สามารถดูแลต้นสมุนไพรของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ศรีสวัสดิ์ได้ การฟื้นเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงคนไข้ ยังรวมถึงพ่อแม่ และญาติ ที่ได้ฟื้นความหวัง ที่จะได้ลูกชายกลับมา พร้อมกับวิศวกรโยธา ของประเทศไทย อีกท่านหนึ่งเช่นกัน
ด้วยโครงการช่วยเหลือ คนไข้จากทั่วสารทิศ โดยปราศจากความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ กลับยังมีเรื่องที่น่าเศร้าเข้าไปอีก เมื่อกรรมสรรพกรท่าม่วง แจ้งว่า การขายอาหาร ในมูลนิธิ ที่ทางผู้ป่วยที่ศรัทธา และได้รับผลจากการทานสมุนไพร ร่วมกันทำเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงตัวมูลนิธิ เพียงสัปดาห์ละสองวันนั้น กรมสรรพากร ให้ไปดำเนินการประเมิน เพื่อเสียภาษี ทั้งๆ ที่ อาหารหรือเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะทำมาให้ มูลนิธิจำหน่าย เพื่อเป็นรายได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดกันอย่างไร สำหรับเรา คนพวกนี้ไม่เพียงแต่ใจดำ ยัง "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
สักวัน เราอาจได้เห็นปรากฎการณ์ม๊อบแบบใหม่ คือ "ม๊อบคนไข้" เรื่อนหมื่น เดินประท้วงในกรุงเทพฯ ก็เป็นได้ ภาวนาอย่าให้มันเกิดเลย อายชาวต่างประเทศเขา ไม่รู้จะเดินถนนได้อย่างไร เพราะเขาคงตั้งคำถามว่า "บ้านคุณมีของดีๆ อย่างนี้ ทำไมพวกคุณทำกันอย่างนี้ ไม่รักษาก็พอทน แต่ยังจะจ้องทำให้สาบสูญอีก" ขนาดบ้านเขา แค่มีความสามารถนิดหน่อย เตะบอลได้ ร้องดีหน่อย ยังสนับสนุนให้ดังทั่วโลกเลย "ทำไมบ้านคุณโง่อย่างนี้ มีของดีไม่รู้จักรักษา" ฮ่วย................ เอะอะก็ผิดกฏหมาย ......... ต้องปิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น