แม้ว่า การรักษาผู้ป่วยเอดส์ของหลวงพ่อนิพนธ์ ได้เริ่มทดลองมานาน ผ่านการพิสูจน์ตัวยาสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน โดยผู้ป่วยหลายต่อหลายรุ่น ปัจจุบัน ก็มีผู้ป่วยบางคน ที่มาขออนุญาตไปแต่งงาน และมีบุตร หลังจากหายแล้ว สิ่งที่ปรากฎยืนยันอย่างเด่นชัดคือ ทั้งพ่อ แม่ ลูก ล้วนแล้วแต่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีวี่แววการกลับมา หรือ คงอยู่ของเชื้ออีกต่อไป
กระนั้นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ หลวงพ่อนิพนธ์ เคยบอกกล่าว ว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการบันทึก หรือ ทำสิ่งใด อันจะเป็นการคุยโว ในการรักษา คนเหล่านี้ที่เราเห็น และยังอยู่จนปัจจุบัน ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงจนน่าตกใจ เพราะหลังผ่านวิกฤตการณ์แล้ว เราแทบจะไม่เคยเห็น คนเหล่านี้มีอาการใดๆ เลย เรียกได้ว่าดีกว่าคนปกติเสียอีก ทั้งนี้คงเนื่องจาก ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่ง มีภูมิต้านทานสูง กระมัง
จนถึงปัจจุบัน คนไข้เอดส์ 3 คน ในรุ่นปัจจุบัน คนหนึ่ง เป็นสาวชาวพม่า ที่ถูกคนใจบาปโทรม และแพร่เชื้อมาให้ อยู่มาปีกว่า จากการหอบสังขารมา เดินแทบไม่ไหว มาวันนี้ แข็งแรง ทำงานได้ทั้งวัน คนที่ 2 เป็นสาวชาวลาว โดยมีคนไข้มะเร็งสมอง ที่หมอบอกต้องผ่าตัด แต่ด้วยความจน จึงหันมาใช้แนวทางนี้ และประสบผล จึงได้นำคนนี้มา ผ่านไปไม่กีเดือน สาวลาวคนนี้ ก็สามารถ ช่วยดูแลสวนสมุนไพร รดน้ำต้นสมุนไพร ให้แก่มูลนิธิได้เป็นอย่างดี และคนล่าสุด หนุ่มวิศวกร ที่เพิ่งจบหมาดๆ อยู่มาได้เกือบเดือนแล้ว อาการลายตุ๊กแก ได้หายไปเกือบหมด ไม่มีอาการหอบ เชื้อราที่ขึ้นสมอง และมองเห็นได้ยามอ้าปาก ก็ถูกกำจัดไป ทำให้แข็งแรง สามารถดูแลต้นสมุนไพรของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ศรีสวัสดิ์ได้ การฟื้นเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงคนไข้ ยังรวมถึงพ่อแม่ และญาติ ที่ได้ฟื้นความหวัง ที่จะได้ลูกชายกลับมา พร้อมกับวิศวกรโยธา ของประเทศไทย อีกท่านหนึ่งเช่นกัน
ด้วยโครงการช่วยเหลือ คนไข้จากทั่วสารทิศ โดยปราศจากความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ กลับยังมีเรื่องที่น่าเศร้าเข้าไปอีก เมื่อกรรมสรรพกรท่าม่วง แจ้งว่า การขายอาหาร ในมูลนิธิ ที่ทางผู้ป่วยที่ศรัทธา และได้รับผลจากการทานสมุนไพร ร่วมกันทำเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงตัวมูลนิธิ เพียงสัปดาห์ละสองวันนั้น กรมสรรพากร ให้ไปดำเนินการประเมิน เพื่อเสียภาษี ทั้งๆ ที่ อาหารหรือเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะทำมาให้ มูลนิธิจำหน่าย เพื่อเป็นรายได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดกันอย่างไร สำหรับเรา คนพวกนี้ไม่เพียงแต่ใจดำ ยัง "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ"
สักวัน เราอาจได้เห็นปรากฎการณ์ม๊อบแบบใหม่ คือ "ม๊อบคนไข้" เรื่อนหมื่น เดินประท้วงในกรุงเทพฯ ก็เป็นได้ ภาวนาอย่าให้มันเกิดเลย อายชาวต่างประเทศเขา ไม่รู้จะเดินถนนได้อย่างไร เพราะเขาคงตั้งคำถามว่า "บ้านคุณมีของดีๆ อย่างนี้ ทำไมพวกคุณทำกันอย่างนี้ ไม่รักษาก็พอทน แต่ยังจะจ้องทำให้สาบสูญอีก" ขนาดบ้านเขา แค่มีความสามารถนิดหน่อย เตะบอลได้ ร้องดีหน่อย ยังสนับสนุนให้ดังทั่วโลกเลย "ทำไมบ้านคุณโง่อย่างนี้ มีของดีไม่รู้จักรักษา" ฮ่วย................ เอะอะก็ผิดกฏหมาย ......... ต้องปิด
ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
อย่าชวนใครมาเลย... ถ้าเขายังมีหนทางอื่น
สิ่งที่เราอยากแนะนำ จากประสพการณ์ของเรา ด้วยความที่เห็นสิ่งดีงามที่ปรากฎ ได้ติดตามและไตร่ตรองแล้ว ก็เห็นว่าสถานที่นี้เป็นที่พึ่งได้ หลักของแม่ชีเมี้ยน ที่หลวงพ่อนิพนธ์นำมา มีคุณอนันต์ ด้วยความคิดนี้เอง ทำให้เราเคยเข้าเว็ปของคุณแก้ว ในแก้วไดอารี่ เชิญชวนให้มา เพราะเราเห็นด้วยตนเอง ถึงผู้ที่มีอาการหนักกว่าคุณแก้วมากมายหลายคน ประสพผลจากสถานที่นี้ ด้วยความคิดที่ว่า คุณแก้วน่าจะเป็นคนดี จากประวัติที่ได้รับรู้ การรักษาก็น่าจะประสพผลได้ไม่ยาก ผลปรากฎว่าถูกอวย....กระจาย เราก็ไม่ว่าอะไรใครหรอก คิดไปคิดมาเป็นความผิดของเราเอง เพราะคิดแต่ว่า ถ้าคุณแก้วประสพผล ก็จะมีคนเดินตามมาอีกมากมาย คล้ายๆ กับคุณปรียานุชที่ประสพผล ก็มีคนเดินตามมามากมายเช่นกัน แต่ความคิดนี้ของเราดูจะคับแคบไป เพราะเราไม่เคยคิดว่า คนเหล่านี้ต้องล้วนถูกหลอกมามากมายเกี่ยวกับสมุนไพร เมื่อได้พบกับของจริงก็หมดไฟไปเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ความน่าเชื่อถือของหมอ มีสูงมาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีผู้ประสพผลเลย แม้กระทั่งทรง
ดังนั้น การไปชวนผูอื่น ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง ถ้าผู้ป่วยมาเอง เช่น สาวชาวลาว ที่เป็นลูกจ้างคนไทย ไม่มีที่ไปแล้ว หลวงพ่อนิพนธ์ท่านก็รับไว้ และล่าสุด ที่เป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าดีใจเช่นกัน ก็คือ หนุ่มวิศวะที่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ขณะที่อยู่ชั้นปีที่ ๒ กลัวพ่อแม่เสียใจ ก็อุตส่าห์เล่าเรียนจนจบ แต่เรื่องก็มาแดงจนได้ในตอนที่กำลังจะรับปริญญา เพราะพ่อแม่สังเกตเห็นร่องรอยที่ปรากฎบนผิวหนัง ของผู้ป่วยระยะสุดท้าย
ในเรื่องเศร้านี้ กลับเป็นโชคดีของเขา เพราะพ่อแม่เขาได้มาทานสมุนไพร จึงพาเขามา หลวงพ่อนิพนธ์ก็ได้กรุณารับไว้ และเรื่องที่ดีคือ คนเหล่านี้กำลังดีวันดีคืน สาวลาวก็แข็งแรงจนสามารถดูแลสวนสมุนไพรที่บ่อพลอยได้ ทำงานทั้งวัน หนุ่มวิศวะก็ดูแลสวนสมุนไพรที่ศรีสวัสดิ์อยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่เขา ก็เดินได้โดยไม่เหนื่อย ถึงคนเหล่านี้จะไม่ใช่กลุ่มแรกๆที่เข้ามารักษา แต่ก็กำลังเป็นต้นแบบให้คนรุ่นหลังมาเดินตาม
เสียดายก็แต่ ถ้ามีต้นแบบในโรคนี้เช่นคุณปรียานุช เราคงได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นกับคนแล้วคนเล่า ด้วยสมุนไพร และแนวปฏิบัติของแม่ชีเมี้ยน ให้เห็น เราก็ยังหวังว่า คุณแก้วที่เราเคยเชิญเขามาทดลอง อาจจะเปลี่ยนใจ เพราะเกือบสิบปีแล้ว ที่เขาเลือกที่จะทานยาต้าน ผลก็ปรากฎแล้วว่ามีโรคแทรกมาเยือน อาทิ ธาลัสซีเมีย ถ้าวันนี้ เขาเปลี่ยนมาแนวทางนี้และประสพผล คำตรัสของแม่ชีเมี้ยน ที่กล่าวว่า "สมุนไพรของฉัน ให้ไว้เพื่อกู้ชาติ" ก็คงเห็นเป็นรูปร่างแน่
แต่นั่นเป็นความคิดของเรา ไม่ใช่ของเขา จึงอยากนำประสบการณ์นี้บอกเล่าว่า อย่าไปชวนใครมาเลย ยกเว้นบุคคลนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...
ท้ายสุด ขออภัยที่เอ่ยถึงคุณแก้วโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่ก็ด้วยความประสงค์ดีต่อทุกคน และในการกล่าวอ้างนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น รวมถึงมูลนิธิไทยกรุณาด้วย
ถึงแม้ว่าหลวงพ่อนิพนธ์ ได้นำสูตรสมุนไพรนี้มาใช้กว่าห้าสิบปีแล้วก็ตาม ผลงานมีมากมาย เราก็ยังยืนยันว่า อย่าชวนใครมาเลย... ถ้าเขายังมีหนทางอื่น
ดังนั้น การไปชวนผูอื่น ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง ถ้าผู้ป่วยมาเอง เช่น สาวชาวลาว ที่เป็นลูกจ้างคนไทย ไม่มีที่ไปแล้ว หลวงพ่อนิพนธ์ท่านก็รับไว้ และล่าสุด ที่เป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าดีใจเช่นกัน ก็คือ หนุ่มวิศวะที่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ขณะที่อยู่ชั้นปีที่ ๒ กลัวพ่อแม่เสียใจ ก็อุตส่าห์เล่าเรียนจนจบ แต่เรื่องก็มาแดงจนได้ในตอนที่กำลังจะรับปริญญา เพราะพ่อแม่สังเกตเห็นร่องรอยที่ปรากฎบนผิวหนัง ของผู้ป่วยระยะสุดท้าย
ในเรื่องเศร้านี้ กลับเป็นโชคดีของเขา เพราะพ่อแม่เขาได้มาทานสมุนไพร จึงพาเขามา หลวงพ่อนิพนธ์ก็ได้กรุณารับไว้ และเรื่องที่ดีคือ คนเหล่านี้กำลังดีวันดีคืน สาวลาวก็แข็งแรงจนสามารถดูแลสวนสมุนไพรที่บ่อพลอยได้ ทำงานทั้งวัน หนุ่มวิศวะก็ดูแลสวนสมุนไพรที่ศรีสวัสดิ์อยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่เขา ก็เดินได้โดยไม่เหนื่อย ถึงคนเหล่านี้จะไม่ใช่กลุ่มแรกๆที่เข้ามารักษา แต่ก็กำลังเป็นต้นแบบให้คนรุ่นหลังมาเดินตาม
เสียดายก็แต่ ถ้ามีต้นแบบในโรคนี้เช่นคุณปรียานุช เราคงได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นกับคนแล้วคนเล่า ด้วยสมุนไพร และแนวปฏิบัติของแม่ชีเมี้ยน ให้เห็น เราก็ยังหวังว่า คุณแก้วที่เราเคยเชิญเขามาทดลอง อาจจะเปลี่ยนใจ เพราะเกือบสิบปีแล้ว ที่เขาเลือกที่จะทานยาต้าน ผลก็ปรากฎแล้วว่ามีโรคแทรกมาเยือน อาทิ ธาลัสซีเมีย ถ้าวันนี้ เขาเปลี่ยนมาแนวทางนี้และประสพผล คำตรัสของแม่ชีเมี้ยน ที่กล่าวว่า "สมุนไพรของฉัน ให้ไว้เพื่อกู้ชาติ" ก็คงเห็นเป็นรูปร่างแน่
แต่นั่นเป็นความคิดของเรา ไม่ใช่ของเขา จึงอยากนำประสบการณ์นี้บอกเล่าว่า อย่าไปชวนใครมาเลย ยกเว้นบุคคลนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...
ท้ายสุด ขออภัยที่เอ่ยถึงคุณแก้วโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่ก็ด้วยความประสงค์ดีต่อทุกคน และในการกล่าวอ้างนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น รวมถึงมูลนิธิไทยกรุณาด้วย
ถึงแม้ว่าหลวงพ่อนิพนธ์ ได้นำสูตรสมุนไพรนี้มาใช้กว่าห้าสิบปีแล้วก็ตาม ผลงานมีมากมาย เราก็ยังยืนยันว่า อย่าชวนใครมาเลย... ถ้าเขายังมีหนทางอื่น
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เรื่องน่าขัน ปนเศร้าของชมรมไทยกรุณา
วันนี้ของชมรมไทยกรุณา ผ่านร้อนผ่านหนาวมายี่สิบกว่าปี ให้สุขแก่ครอบครัวคนทุกข์มาก็ไม่น้อย เรายังไม่เห็นคนไทยนิยมชมชอบ อยากรู้เรื่องราว ทำราวกับว่าสิ่งดีๆ อย่างนี้ ไม่มีตัวตนในประเทศไทย ตูไม่รู้ ตูไม่สน
เทียบไม่ได้เลยกับดาราศิลปิน ทั้งในประเทศและต่างชาติ มีผู้คนหลั่งใหลไปชื่นชมและติดตามอย่างล้นหลาม สถานที่ต่างๆ แทบแตก อย่างไม่น่าเชื่อ แฟนฟุตบอล คลั่งไคล้ อยากรู้ประวัติคนเหล่านั้น จนแม้กระทั่งรายละเอียด มีไฝอยู่ตรงไหน ก็ปานนั้น
วันหนึ่ง วันที่ "โรคแตก" เราก็คงนั่งเศร้าของเรา เพราะจะมีคนมากหลายพวกนั้น โอดครวญ ร่ำร้อง หาคนช่วย แล้วก็อ้างทุกขเวทนา ขอร้องหาความเมตตา เราไม่อยากนึกเลยว่า เมืองนี้ ที่อ้างกันว่าเป็นเมืองพุทธ ทำไมถึงได้ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้น มีบทบาทมากในชีวิต มากไปกว่าสิ่งดีงาม และปล่อยให้สถานที่ดีๆอย่างนี้ ต้องหลบลี้หนีภัย แม้กระทั่งกฎหมาย อยู่ในซอกหลืบ ความเมตตา ค้ำจุนโลก มีมาแต่โบราณกาล ด้วยความเมตตา และน้ำใจ ของแม่ชีเมี้ยน กับหลวงพ่อนิพนธ์ ก็ยังดิ้นรนและต่อสู้ ให้สถานที่นี้คงอยู่ ไม่ว่าจะถูกกดดันจากภาครัฐ พ่อค้าฉ้อฉล คนโลภ สักเพียงใด เราก็ยังเห็นสถานที่นี้ยืนหยัดเด่น เป็นสง่า ท้าทาย แสดงให้โลกรู้ว่า คนดี มีคุณธรรม และใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ยังมีอยู่ และจะยืนอย่างไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ ก็ด้วยความเชื่อที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
เราคงต้องเตรียมใจ ที่จะเห็นคนล้มตายอย่างมากมาย เพราะไม่เอาธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะถูกโลกหล่อหลอม ให้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ผิด แต่เราก็ดีใจ ที่เกิดมาชาตินี้ เราได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง "พระพุทธเจ้า แม่ชีเมี้ยน และหลวงพ่อนิพนธ์" ชาตินี้เราไม่เสียชาติเกิดแล้ว
วันนี้ เราจึงไม่แปลกที่ข้อเขียนของเรา มีคนอ่านไม่มาก เพราะมนุษย์เขาไม่ชื่นชม ไม่อยากเห็น ไม่อยากฟัง เมื่อเขาอยาก ก็สายเสียแล้ว
เทียบไม่ได้เลยกับดาราศิลปิน ทั้งในประเทศและต่างชาติ มีผู้คนหลั่งใหลไปชื่นชมและติดตามอย่างล้นหลาม สถานที่ต่างๆ แทบแตก อย่างไม่น่าเชื่อ แฟนฟุตบอล คลั่งไคล้ อยากรู้ประวัติคนเหล่านั้น จนแม้กระทั่งรายละเอียด มีไฝอยู่ตรงไหน ก็ปานนั้น
วันหนึ่ง วันที่ "โรคแตก" เราก็คงนั่งเศร้าของเรา เพราะจะมีคนมากหลายพวกนั้น โอดครวญ ร่ำร้อง หาคนช่วย แล้วก็อ้างทุกขเวทนา ขอร้องหาความเมตตา เราไม่อยากนึกเลยว่า เมืองนี้ ที่อ้างกันว่าเป็นเมืองพุทธ ทำไมถึงได้ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้น มีบทบาทมากในชีวิต มากไปกว่าสิ่งดีงาม และปล่อยให้สถานที่ดีๆอย่างนี้ ต้องหลบลี้หนีภัย แม้กระทั่งกฎหมาย อยู่ในซอกหลืบ ความเมตตา ค้ำจุนโลก มีมาแต่โบราณกาล ด้วยความเมตตา และน้ำใจ ของแม่ชีเมี้ยน กับหลวงพ่อนิพนธ์ ก็ยังดิ้นรนและต่อสู้ ให้สถานที่นี้คงอยู่ ไม่ว่าจะถูกกดดันจากภาครัฐ พ่อค้าฉ้อฉล คนโลภ สักเพียงใด เราก็ยังเห็นสถานที่นี้ยืนหยัดเด่น เป็นสง่า ท้าทาย แสดงให้โลกรู้ว่า คนดี มีคุณธรรม และใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ยังมีอยู่ และจะยืนอย่างไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ ก็ด้วยความเชื่อที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
เราคงต้องเตรียมใจ ที่จะเห็นคนล้มตายอย่างมากมาย เพราะไม่เอาธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะถูกโลกหล่อหลอม ให้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ผิด แต่เราก็ดีใจ ที่เกิดมาชาตินี้ เราได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง "พระพุทธเจ้า แม่ชีเมี้ยน และหลวงพ่อนิพนธ์" ชาตินี้เราไม่เสียชาติเกิดแล้ว
วันนี้ เราจึงไม่แปลกที่ข้อเขียนของเรา มีคนอ่านไม่มาก เพราะมนุษย์เขาไม่ชื่นชม ไม่อยากเห็น ไม่อยากฟัง เมื่อเขาอยาก ก็สายเสียแล้ว
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
2012 โลกจะแตกจริงหรือ?
ข่าวเขาเล่าลือ หนังสือเขาเขียนเล่า ตำนานเขาบอกกล่าว "โลกจะแตก" จริงหรือ?
ถ้าเราใช้ตรรกะ ก็จะมองเห็นซึ่งความจริง ว่าเป็นไปไม่ได้ โลกอยู่มาเป็นล้านๆ ปี และมันก็ยังคงอยู่ต่อไปอีกเป็นล้านๆปี เพราะต้องรองรับดวงวิญญาณ ไม่ว่าสภาพของสัตว์ หรือ มนุษย์ ต่อไปอย่างแน่นอน
สิ่งที่จะบังเกิด ในพงศาวดารของพระพุทธศาสนา คือ "โรคจะแตก" เพราะอะไร เพราะกรรมของมนุษย์ที่สั่งสมกันมา แลนิสัยที่ห่างจากคำสอนของศาสนามาเนิ่นนานนั่นเอง ทำให้มนุษย์ทำสิ่งที่เป็นโทษแก่ตัวเอง แต่ก็ต่างโทษผู้อื่น โทษสิ่งต่างๆ ร่ำไป ไม่เคยเลยที่จะกลับมาโทษนิสัยของตัวเอง
การเกิดของโรคจึงบีบบังคับให้มนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาชีวิต นั่นคือ ธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
แม่ชีเมี้ยนได้ตรัสว่า จึงต้องมีพระพุทธเจ้าอุบัติ เพื่อดับยุคเข็ญจากโรคภัยไข้เจ็บ และความรุนแรงของภัยพิบัติ วันใดที่มนุษย์นำธรรมของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ความเลวร้ายก็จะทุเลาและหมดไป โลกก็จะกลับมาสู่สมดุลย์อีกครั้ง คนมีธรรมจะสามารถดำรงอยู่ คนที่ไม่มีธรรมก็จะถูกล้างไป
ภาพที่จะปรากฎเด่นชัดดังคำพังเพยโบราณก็จะปรากฎให้เห็น คือ "ผู้ดีเดินตรอก ขึ้คลอกเดินถนน" ซึ่งท่านได้อรรถาธิบายว่า เป็นเพราะหลักของพระพุทธเจ้าทำได้ยากและต้องทำเอง คนที่ทำได้จึงมักเป็นคนชั้นต่ำ เพราะเคยชินกับความลำบากอยู่แล้ว เมื่อทำได้ก็ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน ทำให้เดินได้อย่างไม่กลัวโรคร้ายที่จะมาบังเกิด ส่วนผู้ที่ทำไม่ได้ก็จะถูกโรคร้ายรุมเร้า เป็นที่น่ารังเกียจ หรือ จะไปไหนมาไหนก็กลัวโรค จึงไม่กล้าไปไหน
แล้ววันเวลานั้นก็ใกล้มาถึงแล้ว คำของท่านกำลังเป็นจริง ในความทุกข์ก็มีสิ่งที่จุดประกายความหวัง นั่นคือ "เรากำลังได้มีพระพุทธเจ้า" เราๆ ท่านๆ จะได้รู้ว่าธรรมที่แท้จริง เป็นอย่างไร และ สุขของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร และที่สำคัญ "ความไม่โรค เป็นลาภอันประเสริฐ" ทำได้จริง ไม่ต้องพึ่งหมอ เคมี ยาวิทยาศาสตร์ และให้ฝรั่งหลอกจนเสียทรัพย์ เสียชีวิต คนแล้วคนเล่าอย่างทุกวันนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)