วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ดีแต่คุย

เฉกเช่นพระหลายองค์เข้ามาเรียนธรรม ก็มุ่งมั่นจดจำคำสอน ของแม่ชีเมี้ยน แล้วก็พูดได้จนน้ำไหลไฟดับ แต่หาได้ปฏิบัติหรือทำตามให้เกิดมรรคเกิดผล ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นก็หาไม่ ท้ายที่สุดก็เป็นได้แค่พวก ดีแต่พูด ทำไม่ได้

ด้วยศาสนา ที่แท้จริง หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็นว่า แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า คือ ศาสนา ทำ มุ่งมั่นเปลี่ยนนิสัยตนแต่เดิมที่เป็นนิสัยกรรม ให้เป็นนิสัยธรรมของพระพุทธเจ้า และการทำนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ธรรมมากมายแต่ประการใด เพียงแต่สิ่งใดที่ทำได้ แลเป็นประโยชน์แก่ตน ก็จับมาฝึกมาทำ ค่อยๆทำไปทีละน้อย คือ เริ่มตั้งแต่ ๑ ชั่วโมง

อาทิ เช่นที่ท่านอาสิกล่าว คือ นิสัยไม่โกรธ หรือจะเป็นนิสัยใดของตนที่เลวร้ายให้ทุกข์แก่ผู้อื่นมาก ก็นำนิสัยอันนั้นมาถวายพระพุทธ แล้วทำก่อน ค่อยๆลดไป ฝึกวันละหนึ่งชั่วโมง โดยหลวงพ่อนิพนธ์สอนว่า ชั่วโมงแห่งสัจจะหรือการสร้างนิสัยนั้น ก็พึงไตร่ตรอง ด้วยเหตุด้วยผล ให้เห็นโทษแห่งนิสัยนั้นๆ เมื่อนิสัยเกิด ก็พยายามหาหนทางที่จะควบคุมนิสัยนั้น ด้วย พิจารณากรรมเป็นกรรมฐาน ว่าทำไปแล้วเป็นทุกข์แก่ผู้อื่น กรรมอันนั้นก็จะย้อนกลับมาให้ทุกข์เราอีกไม่จบไม่สิ้น

หากเราสร้างสติ แล้วทำนิสัยในชั่วโมงสัจจะได้ ชั่วโมงอื่น เราก็น้อมนำสตินั้นมาประคองตน ให้มีนิสัยสร้างสุขให้แก่ผู้อื่น หากนิสัยมาก็พยายามเอาสติในชั่วโมงที่ทำมาปะทะ ซึ่งแรกๆ ไม่เคยชินก็จะควบคุมได้น้อยเป็นธรรมดา ค่อยๆทำไป ก็จะควบคุมนิสัยได้ดีขึ้น

จึงไม่มีความจำเป็นเลย ที่จะต้องไปเรียนพระไตรปิฏกเพราะศาสนาของพระภูมี นั้นฟังง่าย ปฏิบัติได้เลย ไม่มีคำที่ฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนในตำรานั้นๆหรอก มิหนำซ้ำยิ่งอ่านมากรู้มาก ก็จักเข้าข่าย รู้ไว้พูด ไม่ได้รู้ไว้ทำ ไปหมด

ดังนั้น เรื่องของศาสนา ที่ทำเพื่อช่วยตน ทุกคนทำได้ ฟังปุ๊บ พิจารณา แล้วจับเอาที่ตนทำแล้วมีประโยชน์มาทำ สร้างสุขให้แก่ตน แม้นเพียงคำเดียวประโยคเดียวก็พอแล้ว และเมื่อทำ หลวงพ่อนิพนธ์ก็ชี้ให้เห็นว่า แม้นจะเป็นคำเดียว ประโยคเดียว แต่ด้วยนิสัยเดิมอยู่กับเราท่านมานาน การจะฝืนนิสัยเดิม ก้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ทำได้ถ้าเราท่านเจอศาสนาที่แท้จริง แล้วใช้อำนาจธรรม สติธรรมค่อยๆข่มนิสัยเดิม หรือกิเลสเดิม หยุดใจ วาจายังไม่ได้ ก็เริ่มที่หยุดกายก่อนเป็นสำคัญ

วันหนึ่ง เมื่อสติธรรมเราท่านโต หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า เมื่อเราท่านมินิสัยธรรม เห็นกรรม ก็จะเกิดสิ่งหนึ่งผุดขึ้นมา นั่นคือ เมตตาธรรม เพราะรู้ตนดีว่า กรรมมีอำนาจ เราท่านผู้ทำ กว่าจะหลีกพ้นนิสัยกรรมเดิมของตน ไม่ใช่ง่ายเลย จึงไม่แปลกเลยว่า ขนาดพระโคดมผู้มีปัญญามีความพร้อม ยังใช้เวลาถึงกว่า ๖ ปี และเมื่อมีเมตตาธรรม เราท่านก็จะให้อภัยผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย ไม่เห็นผู้อื่นผิด เพราะรู้ดีว่า คนผู้นั้น ยังมีกรรมเป็นอำนาจ ควบคุมเขาอยู่นั่นเอง

บทสรุป โลกเราทุกวันนี้ มีแต่ผู้รู้มากมายเต็มโลก แต่หาผู้ทำนั้นน้อยนิด โลกจึงวุ่นวาย บ้านก็เป็นโลกย่อส่วน มีเราท่านเป็นประชากร ก็วุ่นวายหากทุกคนยังใช้นิสัยกรรม หลวงพ่อนิพนธ์จึงชักชวนเราท่าน มาใช้นิสัยธรรม ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา เพื่อเป็นจุดเริ่ม แห่งความสงบ จากตัวเองก่อน แล้วก็ไปเป็นบ้านที่สงบ ซึ่งน่าคิด ว่าหากมีบ้านใดบ้านหนึ่ง ทำตามคำสอนของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา บ้านนั้นจะกลายเป็นบ้านที่ไม่มีเสียงด่าทอกันเลยในบ้าน บ้านนั้นจะมีแต่ให้สุขแก่ครอบครัวตนและผู้อื่น รวมไปถึงสรรพสัตว์ บ้านนั้นย่อมเป็นบ้านที่คนอื่นปรารถนาจะเป็น แต่เป็นไม่ได้ เพราะคนเหล่านั้น ดีแต่พูด ดีแต่อยาก แต่ไม่ทำ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะทำบ้านเราท่านให้สงบสุข ที่สำคัญ ไม่มีทุกข์จากโรคภัย เป็นของแถมอีกต่างหาก ไม่มีหัวหงอกเผาหัวดำ ไม่มีอุบัติภัย ทำให้ชีวิตดับ บ้านวิเศษแบบนี้ สร้างได้ ขอเพียงเราท่านทำ ด้วยขันติ อดทน อย่าพึงแต่พูดว่า อยากหายโรค อยากมีสุข แต่เก็บมือ เก็บไม้ และยังใช้นิสัยเดิม ฝันที่ว่าไม่มีทางเป็นจริงได้เลย

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44