หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้หนทางรอดสายเดียวที่แม่ชีเมี้ยน ทรงอนุญาต นั่นคือ การทำนิสัยของพระภูมีให้พึงบังเกิดแก่ตน เป็นที่พึ่งของตน
คำกล่าวที่ดูเหมือนพูดไปงั้นๆ ในวันงานรำลึกคุณ นั่นคือวันสอบ วันที่เราทุกคนต้องแสดงความปรารถนาให้ฟ้าดินเห็นว่าเราอยากได้ เราคือหมู่ชนของคนดี นั่นคือ การสร้างธรรมสามัคคี แสดงว่าพวกเราสอบตก
ด้วยมีผู้อยากได้ อยากทำนิสัยพระพุทธเจ้า ไปขอ สัจจะ เพียงหยิบมือ
ทำให้นึกย้อนถึงคำสั่งเสียของหลวงพ่อนิพนธ์ ว่า บอกเขาด้วยทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว จะทานสมุนไพรต้องมีคำตอบ ทานไปทำไม
ผ่านมาครบสี่ปี บท เมตตา กรุณา มุทิตา ผ่านไป ถึงบทอุเบกขาของสมุนไพรแล้ว
บทสรุป วันเวลามาถึง ยุคยักษ์หน้าโบสถ์มาแล้ว เหลือแต่แผ่นดินลพบุรีที่เป็นที่พึ่ง หากแต่แผ่นดินนั้นเข้าได้ต้องใช้คุณสมบัติ
เราก็จะได้เห็นคนอยากได้แต่ไม่อยากทำ ก็อยู่ได้แต่นอกรั้ว เข้าไม่ได้เพราะทำตามวินัยเขาไม่ได้
ถึงเวลาพิสูจน์ อยากช่วยตนต้องใช้ ธรรมนำหน้าแล้ว คนทำได้ ท่านว่าเหมือนมีเครื่องหมายบนหัว กรรมเขาจะเว้น ....
เมื่อกรรมมีอำนาจให้ทุกข์แก่คนสร้างกรรม ธรรมเขาก็มีอำนาจสร้างสุข แก่คนมีธรรม เดินถนนไม่ต้องกลัว
คนมีกรรมเขากลัวโรค
คนมีธรรมเขากลัวกรรม แต่ไม่กลัวโรค
ฉะนั้นถ้ามีธรรม เริ่มทำจิตก็เป็นสุข กินได้ นอนหลับ
แล้วดูคนมีกรรม ไม่ต้องเป็นโรคอะไรหรอก ท่านว่าแค่โรคจิต กินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันก็อ๊วกแล้ว เห็นอะไรก็กลัวไปหมด ยกเว้น กลัวกรรม สร้างหน้าตาเฉย
ดูสิ เบนซิน 85 มีอัลกอฮอร์ 85 ส่วน เบนซิน 15 ส่วน ขาย 16฿ / ลิตร
แต่วันนี้เอาแอลกอฮอล์ 75 ส่วน น้ำกลั่น 25 ส่วน ขายเพื่อฆ่าเชื้อ ขายลิตรละร้อยกว่าหน้าตาเฉย
แม่ชีเมี้ยนให้สติว่า ใครจะทำชั่วไม่กลัวกรรมเรื่องของมัน มันทำมันได้ แต่เราต้องทำดี ยิ่งสภาวะนี้คนเขาเดือดร้อน กำไรน้อยหรือไม่มีกำไร แม้นจะขาดทุนนิดหน่อยถ้าเรายังพออยู่ได้ ไม่เป็นไร เพราะความดีที่เราทำ นั่นแหละที่พึ่งของเราที่แท้จริง
ไม่มีสมุนไพรให้พึ่งแล้ว เหลือการกระทำตนเท่านั้นที่พึ่งได้ ถ้าไม่เอาสัจจะ ไม่เอาธรรมของพระโคดม จะเดินไปรอดปลอดภัยโดยวิธีใด