แม่ชีเมี้ยนตรัสชี้ พระภูมีพิจารณากรรม คือพิจารณาเหง้าของนิสัย ที่สร้างกรรมแล้วตัดนิสัยอันลงนั้นลง
หลวงพ่อนิพนธ์ อรรถาธิบาย ทำไมคนทั้งหลายจึงต้องทานสมุนไพรไม่มีวันจบ หรือที่เรียกว่าติดสมุนไพร หรือขาดสมุนไพรไม่ได้
เพราะคนเหล่านั้นไม่พิจารณา ไม่เชื่อว่าเหตุแห่งโรคคือกรรม มนุษย์มีกรรมเป็นอำนาจ ดลบันดาลโรค เพื่อสร้างทุกข์ตามกรรมที่ทำมา
ตราบใดที่ยังสร้างกรรม อำนาจกรรมก็สร้างทุกข์ ทีนี้จะหนีทุกข์ใช้สมุนไพรไปล้างโรค แต่ไม่พิจารณาเลยว่า ทุกข์ที่จะพึงบังเกิดไม่จำเป็นต้องเป็นโรคปัจจุบันนี้ หายโรคนี้เป็นโรคใหม่ หรืออุบัติภัยใดๆก็สร้างทุกข์
ทีนี้ย้อนมาดูทุกข์ที่คนทั้งโลกเผชิญ ทุกข์จากโรคนั้นยังไม่ถึงตัว แต่ทุกข์ใจนั้นมหาศาล ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็ด้วยผลแห่ง โซเชียลมีเดีย นั่นเอง ตัวเห็นผิดเห็นถูกวิ่งว่อนไปทั่วโลก ไม่มีพรหมแดน อยู่คนละทวีปไม่เคยเห็นหน้าเห็นตัวก็ไปสร้างทุกข์ให้เขาได้ พฤติกรรมมนุษย์มันก็ไม่ต่างกับโควิด ไม่เห็นตัวก็สร้างทุกข์กับเราได้
บทสรุป ตราบใดที่เราท่านยังสร้างกรรม และไม่มีการกระทำใดๆเพื่อลดหรือใช้กรรมที่ทำมา จะให้ทุกข์นั้นหายไป คงเป็นไปไม่ได้
พรปีใหม่ของแม่ชีเมี้ยน ความตอนหนึ่งทรงตรัสสอนว่า จะทำสิ่งไรพิจารณาผลของการกระทำอันนั้นเสียก่อน สิ่งที่กระทำควรเลือกแต่สิ่งที่ทำแล้วให้ผลสุขแก่ตน
ท่านอาสิ สอนให้ทำ "ไม่โกรธ ไม่ติเตียน" ถ้าฟัง พิจารณา เชื่อ ก็ลดกิริยาลง เราไม่ทำตนเหมือนคนทั้งโลกด้วยเชื่อธรรมคำสอน เราก็ไม่เป็นแบบคนทั้งโลก โควิดเขาไม่มาถึงเราหรอก เพราะกรรมเขาไม่เกาะคนมีธรรม
แต่ถ้าทานสมุนไพร ทานไปสร้างกรรมไป เล่นปล่อยตนบรรเลงตามนิสัยตน ไม่ลดกิริยาลงแม้นแต่น้อย เราขนหัวลุก ด้วยคำของหลวงพ่อนิพนธ์ที่กล่าว "เอ็งจะเห็นคนตาย ตายทั้งที่ปากยังทานสมุนไพรนี่แหละ"
ทำไมเราจึงเชื่อว่าไม่จบ ก็มนุษย์มุ่งหายา มุ่งพิชิตโรค แต่ไม่คิดพิชิตกรรมนิสัยตนลงมาแม้นแต่น้อย นั้นพฤติกรรม ท้าทายกรรม ท่านว่า "อยู่ใต้ฟ้าอย่าท้าฝน เกิดเป็นคนอย่าท้ากรรม"
นึกหรือว่าถ้าโควิดไป แล้วจะไม่มีอะไรมา นี่มันแค่หน้าม่าน กรรมตัวแม่ของจริงยังไม่มา
"มีแต่ธรรมพระภูมี จึงชนะกรรมได้" แล้วทำไมเรารู้แต่เราไม่ทำ อยากถึงสุข แต่ปฏิเสธธรรม อยากได้แต่ไม่อยากทำ จะไปโดยวิธีใด
รอยารักษาโรค รอไปเถอะ ไม่มีวันถึง