การมอบตำราสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน ให้แก่หลวงพ่อนิพนธ์ สิ่งหนึ่งที่ได้เตือนและแนะนำแก่หลวงพ่อนิพนธ์ ให้เป็นตัวเลือก นั่นคือ ประเภทของคนที่จะช่วย และสถานที่ตั้ง
แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสว่า หากสถานที่ตั้งอยู่ที่ลพบุรี ท่านก็จะดำเนินงานไปได้สะดวก หากแต่ถ้าจะเลือกไปยังกาญจนบุรี ทางของท่านก็ยากลำบาก และด้วยความที่หลวงพ่อนิพนธ์มีนิสัยเป็นนักสู้ ชอบท้าทาย จึงเลือกกาญจนบุรี ในที่สุด
แลยิ่งไปกว่านั้น แม่ชีเมี้ยนยังกำชับอีกว่า หากท่านจะเลือกช่วยคนให้ได้ผล และไม่เหนื่อยมาก ก็ควรเลือกบุคคลที่ไม่ใช่โรค งานของท่านก็จะง่ายไม่ลำบาก
แม้นว่าในขณะที่มอบตำรานั้น โรคชนิดนั้นยังไม่ปรากฎ แต่แม่ชีเมี้ยนก็บอกว่าท่านก็รอไปอีก๒๐ ปี
นั่นคือ การให้เลือกที่จะเปิดบำบัดยาเสพติด และโรคที่ทราบในภายหลังที่เรียกกันว่า "เอดส์" นั่นเอง
แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสว่า โรคทั้งสองนี้ ด้วยความที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรค หากแต่มนุษย์ไม่รู้วิธีแก้ที่ถูกต้อง จึงเสมือนเส้นผมบังภูเขา การช่วยก็ทำได้ง่าย ด้วยหนึ่ง ผู้เป็นอับจนหนทาง แลมีความอยากหายเป็นกำลังเสริมนั่นเอง บอกสิ่งไรก็ปฏิบัติตามโดยง่าย
แต่ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อนิพนธ์ ท่านจึงละเลยคำเตือนเหล่านี้ ด้วยหวังว่า คนทุกข์ยากทุกข์หมู่เหล่าจะได้มีโอกาส แม้นจะยากลำบากสักเพียงไหน ก็จะอดทนสู้ เพื่อให้คนเหล่านั้นได้มีโอกาสมาเจอะเจอศาสนา และช่วยตน
แล้วในที่สุด ก็เป็นดั่งคำของแม่ชีเมี้ยน หลวงพ่อนิพนธ์จึงตกในสภาวะ "ช่วยเขาแล้วเราตาย" ดั่งที่พระอาสิได้กล่าวในวันงาน ด้วยความเมตตา ทำให้หนทางแต่เดิมที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี ๓๐ คือ ใครเป็นอะไรไม่สน ขอให้บวชแล้วสอนให้ทำตน หากผู้ใดทำได้คนนั้นก็รอด
มาในยุคหลังหลวงพ่อนิพนธ์ก็โอนอ่อนผ่อนตาม ด้วยเมตตา และให้โอกาส ยังไม่ต้องบวช หวังว่าสักวันหนึ่งคนที่ช่วยไว้ จะสำนึ่กในคุณที่ศาสนาช่วย กลับมาทำตนในศาสนาบ้าง แต่ยิ่งนานวัน ก็หาเห็นไม่
วันนี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงแยกแผ่นดิน ให้เห็นเด่นชัด ใครไม่ไปแผ่นดินบุญ ไม่คิดทำตน ไม่ว่ากัน แต่จะทำให้ดูว่า แผ่นดินทาน ที่มีสมุนไพรเป็นพี่เลี้ยงนั้น เป็นได้แค่เพียงที่หลบภัย แต่หาปลอดภัยไม่
ด้วยกรรมที่ทำมา ผลยังไม่เกิด เราท่านทั้งหลายจึงประมาท การจะพัฒนาตน แล้วไปเรียนวิชาบุญมาทำ เพื่อทำพรหมลิขิตใหม่แห่งตน ให้ปลอดภัย จึงเป็นไปได้ยาก ครั้นกรรมมา ร่างกายสภาพไม่พร้อม อยากจะไป ก็ทำไม่ได้แล้ว หรือไม่ทันแล้ว
ยุคนี้จึงกล่าวได้ว่า เป็นยุคที่คนไทยเหนื่อยแน่ เพราะไร้ซึ่งต้นบุญต้นอำนาจ มาสั่งการทำให้เป็นบุญ ต้องอาศัยสติปัญญาของตน แหวกพรหมลิขิตเดิม ความเห็นเดิม เพื่อพาตนไปพัฒนานิสัย เอานิสัยพระพุทธเจ้ามานำตน ลดนิสัยเดิมให้เป็นบุญ
นั่นหมายความว่า กรรมมันแรง แต่หลวงพ่อนิพนธ์ก็ชี้ให้เห็นว่า อำนาจธรรมเขาเหนือกว่าอำนาจกรรม ดังนั้น ผู้ใดที่แหวกมาถึงแผ่นดินศาสนา แล้วทำตนได้ บุญที่ได้ย่อมแรงนัก ไม่ว่าโรคอะไร หนักสักเพียงไหน ย่อมหายได้อย่างแน่นอน
เราก็รอดูว่า จะมีสักกี่คน ที่ผ่านกรรมของตน แลทำตนจะชีวิตปลอดภัย และก็เชื่อว่า ต้องมีคนไทยที่ทำได้อย่างแน่นอน